โดย ดร.อัจฉรา จุ้ยเจริญ
Leadership Development Affiliate of Dr. Marshall Goldsmith in Thailand
ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนไปต่างๆ เช่น วิวัฒนาการของเทคโนโลยี โลกาภิวัตน์ ความหลากหลาย โครงสร้างองค์กร และการแข่งขันในสากล สมรรถนะผู้นำที่ผู้บริหารจำเป็นต้องใช้ในการนำทีมและองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน จึงปรับเปลี่ยนไปเช่นกัน เช่นนั้นแล้ว เราจะทราบได้อย่างไรว่าภาวะผู้นำในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีประสิทธิผลคืออะไร และประเมินอย่างไร
ดร.มาแชล โกลด์สมิท (Marshall Goldsmith) ปรมาจารย์ด้านภาวะผู้นำและโค้ชผู้บริหารระดับสูง ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักคิดต้นแบบ ที่มีผลงานการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างต่อเนื่อง จึงหันมาให้ความสนใจในการศึกษาสมรรถนะภาวะผู้นำ เพื่อช่วยทำนายล่วงหน้ามายังยุคปัจจุบัน และให้องค์กรได้มีเวลาเพียงพอในการเตรียมผู้นำทีมีประสิทธิผลอย่างทันกาล
ในปี ค.ศ. 1997 ดร.มาแชล โกลด์สมิท (Dr. Marshall Goldsmith) และทีมงานเริ่มการวิจัยสมรรถนะของผู้นำแห่งอนาคต (Global Leader of the Future) การวิจัยนี้ใช้เวลาสี่ปี เพื่อค้นหาคำตอบ ที่มุ่งหวังให้ครอบคลุม และให้ได้คุณค่าด้านความเป็นสากลให้มากที่สุด เริ่มจากการสัมภาษณ์ CEO และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Fortune 100 เพื่อให้ได้ชื่อของนักคิดดีเด่นที่ได้รับการยอมรับว่าเชี่ยวชาญที่สุดในด้านภาวะผู้นำระดับสากล ผลออกมาได้ 18 ท่าน ยกตัวอย่าง เช่น จอห์น คอตเตอร์ (John Kotter) วอร์เร็น เบนนิส (Warren Bennis) เฮนรี คิสซินเจอร์ (Henry Kissinger) รวมถึง ดร. โกลด์สมิทเอง และท่านอื่นๆ ซึ่งต่อมาได้ร่วมกันเสนอชุดสมรรถนะภาวะผู้นำที่สำคัญ เพื่อการพัฒนาภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
จากพื้นฐานนี้ ทีมวิจัยได้สัมภาษณ์และเก็บข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารสายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์รวมอีก 500 คน ที่มาจากองค์กรต่างๆ 200 แห่ง ใน 6 ทวีป เพื่อทดสอบชุดสมรรถนะภาวะผู้นำดังกล่าว
ผลที่ออกมาได้สมรรถนะภาวะผู้นำที่นำไปใช้ได้ดีในระดับสากล หากแยกเป็นสองกลุ่มหลักคือ สมรรถนะผู้นำด้านการบริหารงาน และ สมรรถนะผู้นำด้านการบริหารคน
สมรรถนะผู้นำด้านบริหารงาน มีสองกลุ่มย่อยคือ
- การสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึง การเข้าถึงและความหลักแหลมในเทคโนโลยี การทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ และการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันให้องค์กร
- การเปลี่ยนแปลงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความสนใจใฝ่รู้และพัฒนาศักยภาพตนเอง การคาดการณ์และโอกาสข้างหน้า และการนำการเปลี่ยนแปลงด้วยความสำเร็จ
สมรรถนะผู้นำด้านบริหารคน แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อยคือ
- ด้านการสื่อสาร คุณธรรมความซื่อตรง การกระตุ้นการสนทนาที่สร้างสรรค์ และการสร้างและสื่อสารวิสัยทัศน์ร่วม
- การสร้างความผูกพันที่คนมีต่อองค์กร รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การสร้างพันธมิตร และการกระจายภาวะผู้นำ
- การสร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากร การมอบหมายงานพร้อมให้อำนาจและอิสระในการตัดสินใจ การคิดด้วยความรอบรู้และมุมมองในระดับโลก และการเห็นประโยชน์ด้านความหลากหลาย
ในมุมมองของดิฉัน การประเมินสมรรถนะภาวะผู้นำเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างความตระหนักรู้ (Self-awareness) ให้ผู้บริหาร การเลือกข้อที่จะพัฒนาจะง่ายขึ้นได้ด้วยตนเอง หรือใช้โค้ชผู้บริหาร (Executive Coach) เข้ามาช่วยแปลผลและอำนวยการเลือกสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อประสิทธิผลของผู้นำ เป้าหมายที่เลือกไม่ควรจะเกินสองเป้าหมาย เพื่อให้เกิดโฟกัส และที่สำคัญรูปแบบการพัฒนาที่ตามมาควรจะหลากหลาย และส่งเสริมการสร้างเครือข่าย (Network) ในการเรียนรู้และพัฒนาภาวะผู้นำอย่างต่อเนื่อง
© Copyright – All rights reserved.
AcComm & Image International
Leadership Development Affiliate of Dr. Marshall Goldsmith in Thailand
You must be logged in to post a comment.